พันธบัตรญี่ปุ่นร่วงหนักขึ้น ขณะความกังวลต่อแพ็คเกจของทาคาอิจิเพิ่มขึ้น
พันธบัตรรัฐบาลอายุยาวของญี่ปุ่นร่วงลงอีกครั้งในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ จะสร้างความเสียหายให้กับการเงินสาธารณะของประเทศ
พันธบัตรรัฐบาลอายุยาวของญี่ปุ่นร่วงลงอีกครั้งในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ จะสร้างความเสียหายให้กับการเงินสาธารณะของประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 40 ปีพุ่งขึ้น 8 จุดพื้นฐาน มาอยู่ที่ 3.68% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พันธบัตรนี้เปิดตัวในปี 2550 ขณะที่พันธบัตรอายุ 20 และ 30 ปี ต่างก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4 จุดพื้นฐาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปียังห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพียงไม่กี่จุดพื้นฐาน
นักลงทุนให้ความสนใจกับตัวเลขการใช้จ่ายจริงในแผนเศรษฐกิจของนายทาคาอิจิ ขณะที่กำลังพิจารณาถึงความเสี่ยงที่การออกตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดญี่ปุ่น ผลสำรวจของบลูมเบิร์กระบุว่า คาดว่ามูลค่าของตราสารหนี้จะสูงกว่า 13.9 ล้านล้านเยน (8.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อปีที่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซัตสึกิ คาตายามะ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า แม้ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถให้ความเห็นในรายละเอียดได้ แต่มาตรการดังกล่าว "มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย"
การเคลื่อนไหวพันธบัตรกำลังเพิ่มความระมัดระวังก่อนการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีในวันพุธ ซึ่งผู้สังเกตการณ์ตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์จะอ่อนแอ ภาวะตลาดพันธบัตรญี่ปุ่นที่ซบเซานั้นตรงกันข้ามกับพันธบัตรโลก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและรัฐบาลออสเตรเลียลดลงเล็กน้อยในวันอังคาร
คาซูยะ ฟูจิวาระ นักยุทธศาสตร์ตราสารหนี้จากบริษัทมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มอร์แกน สแตนลีย์ ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า "การซื้อพันธบัตรน่าจะยังคงจำกัดอยู่จนกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งกำหนดจะได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในวันที่ 21 พฤศจิกายน จะได้รับการเปิดเผย" เขากล่าวเสริมว่า นักลงทุนยังลังเลที่จะซื้อพันธบัตรระยะยาวก่อนการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีอีกด้วย
ทาคาอิจิมีกำหนดพบกับคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่น ในเวลา 15.30 น. ตามเวลาโตเกียว โดยจะมีการจับตาดูความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายหลังการหารืออย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไปตามเวลาใด


