เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวมากกว่าที่คาดในไตรมาสที่สอง แม้สหรัฐฯ จะเผชิญอุปสรรคด้านภาษีศุลกากร
เศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยายตัว 0.3% ในไตรมาสที่สองของปี 2568 เมื่อเทียบกับสามเดือนแรกของปี เนื่องจากประเทศต้องดิ้นรนกับนโยบายภาษีศุลกากรที่ผันผวนจากสหรัฐอเมริกา
เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 0.3% ในไตรมาสที่สองของปีพ.ศ. 2568 เมื่อเทียบกับสามเดือนแรกของปี เนื่องจากประเทศต้องดิ้นรนกับนโยบายภาษีศุลกากรที่ผันผวนจากสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับการเติบโต 0.1% ที่ปรับปรุงแล้วในไตรมาสแรกและสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 0.1% ที่นักเศรษฐศาสตร์สำรวจโดย Reuters คาดการณ์ไว้
เมื่อเทียบเป็นรายปี GDP ของญี่ปุ่นขยายตัว 1.2% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งต่ำกว่าการเติบโต 1.8% ในไตรมาสแรก ตัวเลข GDP ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมการค้าที่ไม่แน่นอนในไตรมาสที่สอง โดยประเทศเพิ่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมข้อตกลงดังกล่าวทำให้ญี่ปุ่นเผชิญกับภาษีศุลกากรแบบครอบคลุม 15% สำหรับการส่งออกทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ รวมถึงรถยนต์ ตลอดไตรมาสที่สอง ญี่ปุ่นได้รับการยกเว้นภาษี 24% ที่ประกาศใน "วันปลดปล่อย" แต่ต้องเผชิญกับภาษี 25% ต่อภาคส่วนยานยนต์หลัก การส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ถือเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยคิดเป็น 28.3% ของการขนส่งทั้งหมดในปี 2567 ตามข้อมูลศุลกากร
ข้อมูลการค้าตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายนเผยให้เห็นว่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ร่วงลงเมื่อเทียบเป็นรายปีตลอดทั้ง3 เดือนโดยเดือนมิถุนายนมีการจัดส่งลดลง 11.4%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน Marcel Thieliant หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Capital Economics ระบุว่าการลดลง 11.4% ของการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เริ่มในปี 2020 หลังจากการประชุมเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศเป็น 0.6% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ถึงเดือนมีนาคม 2026 อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยังเตือนด้วยว่าการค้าและนโยบายอื่นๆ ทั่วโลกจะนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ เช่นเดียวกับการลดลงของกำไรของบริษัทในประเทศ